วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ข้าวผัด+ปลากระป๋อง


เครื่องปรุง
ข้าวสวยอย่างดี ประมาณ     2      ถ้วย
  ปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศ  (หรือตามชอบคะ)     1   กระป๋อง
  มะเขือเทศหั่น เป็นสี่เหลี่ยมเล็ก  ประมาณ      ¼     ถ้วย
  หอมใหญ่หั่น เป็นสี่เหลี่ยมเล็ก ประมาณ   ¼      ถ้วย
  น้ำตาลทรายขาว หรือแดง ประมาณ      ½    ช้อนชา
  ซีอิ๊วขาว ประมาณ     3    ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช ประมาณ    4   ช้อนโต๊ะ

 วิธีปรุง 
       ใส่น้ำมันในกระทะ รอจนน้ำมันร้อน   ใส่หอมใหญ่  ผัดประมาณ 1 นาที ตามด้วยใส่ปลากระป๋อง ผัดยีให้เนื้อปลาแตก ตามด้วย ใส่ข้าว  และ มะเขือเทศ ผัดให้เข้ากัน


   -   ปรุงรสด้วยน้ำตาล และ ซีอิ๊วขาว คะ ผัดต่อให้เข้ากันและปิดไฟ 


**อาจจะโรยหน้าด้วยต้นหอมผักชี หรือมีใส่ไข่ เพิ่มความอร่อยได้คะ    ^^**
               น่ารับประทานไหมคะ ><

วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2555

พริกเกลือ

............พริกเกลือในท้องตลาดมี 2 แบบคะ  คือ พริกเกลือสด และพริกเกลือป่นคะ มาดูหน้าตากัน 
พริกเกลือ (พริกสด)

พริกเกลือ (พริกป่น)
วัตถุดิบ
น้ำตาลทราย

1. น้ำตาล 3 ส่วน
เกลือ

2. เกลือ 1ส่วน 
พริกป่น

3. พริกแห้งป่น ครึ่งช้อนชา คนให้เข้ากัน หรือ พริกสด ตำพอหยาบ



พริกสด

วิธีทำ พริกเกลือ

นำน้ำตาล มาผสมกับเกลือ และ พริกแห้งป่น  คลุกให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จเรียบร้อยคะ 

 หรือ นำน้ำตาล เกลือ มาผสมกับพริกสด ตำพอหยาบ ตามแต่ชอบรสเผ็ด คะ ทานกับมะม่วงและผลไม้ชนิดอื่น อร่อยมากคะ.....

วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ปลาทูต้มหวาน

ปลาทูต้มหวาน



ปลาทูต้มหวาน

1.ปลาทูสด ประมาณ 5 ตัว

2.น้ำตาลปี๊บ
ประมาณ 3-5 ช้อนโต๊ะ
3.น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ

4.รากผักชี 2 +3  ต้น

5.กระเทียม 3 กลีบทุบพอแตก

6.พริกไทยเม็ด 20-30 เม็ด

7.เกลือป่น
½ ช้อนชา
8.น้ำเปล่า

วิธีทำปลาทูต้มหวาน
1.เลือกปลาทูสด (สังเกตสีของตาปลาจะแวว เนื้อปลาแน่ ผิวเกลี้ยง เหงือจะสีแดงสด) มาเอาไส้ออก เปิดตรงแก้มปลาทูแล้วดึงเหงือก  

2.นำปลาทูที่ดึงไส้ออกไปล้างให้สะอาด ใช้มีดบั้งที่ตัวปลาทู ถ้าปลาตัวใหญ่สามารถหั่นปลาออกเป็นสองส่วน
3.ตั้งหม้อใส่น้ำต้มให้เดือด นำรากผักชี พริกไทย กระเทียม มาโขลกให้ละเอียดเข้ากัน 

4.เสร็จแล้วยัดใส่ในตัวปลา ต้องการให้ดับกลิ่นคาวในตัวปลาทูคะ และเพื่อต้องการไม่ให้ท้องปลาแฟบเวลาต้มคะ

5.เมื่อน้ำเดือดแล้วใส่เครื่องปรุงเช่น น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา และเกลือ รอให้ทั้งหมดละลายและ รอให้น้ำเดือดอีกครั้งใส่ปลาทูลงไป

เคล็ดลับน่ารู้.......ควรต้มกะเตาถ่านคะ เพราะต้องเคี่ยวค้างคืน ด้วยไฟอ่อน
..........การต้มหวานปลาทูให้นิ่มควรต้มทิ้งไว้ค้างคืนคะ  การต้มหวานปลาทูจึงจะอร่อย

วันอังคารที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ลวกผักให้สด และเขียว

ผักสดลวกให้สด และเขียว ทำไง มาดูกันดีกว่าคะ 



    เลือกผักที่จะลวก เช่น ผักกวางตุ้ง ผักกาด มะเขือ ถั่วฝักยาว แครอท กระหล่ำปลี ฝักทอง กระหล่ำดอก ผักบุ้ง อื่น ๆ ตามแต่ชอบคะ 
วัตถุดิบ
เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ หรีอ 2 ก้อน


น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำเปล่าพอประมาณ
ขั้นตอนการปรุง

1 การนำหม้อใส่น้ำยกขึ้นตั้งไฟ รอให้น้ำเดือดจัด 

2 ใส่น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ ตามด้วย เกลือป่น 1 ช้อนชา น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ ต่อปริมาณน้ำ 10 ถ้วย 
3.พอน้ำเดือดจัดอีกรอบนำผักลงไปลวกประมาณ 5-10 นาที พอให้ผักสุกตักขึ้น 

4.เตียมภาชนะที่มีน้ำแข้งจัด และน้ำเย็นตั้งไว้ รองรับผักที่ลวกจากน้ำร้อน ลงมาแช่ 

5.พอผักที่ใส่ลงไปคลายความร้อน นำผักขึ้นใส่ในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ จัดแต่งใส่จานให้สวยงามคะ
น้ำพริกกระปิโรยหน้ากุ้งแห้ง

วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555

การหมักเนื้อต่าง ๆ (หมักเนื้อ ไก่ หมู วัว)

วิธีหมักเนื้อต่าง ๆ
เนื้อหมัก
ไก่หมัก
หมูหมัก
        มักจะนิยมใช้สูตรไม่เหมือนกันคะ แต่ชนิดของสิ่งที่นำมาหมักก็มักจะมีไม่กี่อย่าง แล้วแต่จะถนัดสิ่งใด มาดูกันคะว่ามีอะไรใช้หมักได้บ้าง
ซีอิ้วขาว
ไข่ขาว
แป้งมัน
น้ำตาลปี๊บ (น้ำตาลทราย)
สับปะรด
มะละกอ (ใช้ยางอย่างเดียว)
น้ำมันพืช
พริกไทย
เกลือ
โซดาไบคาร์บอเนต
เหล้าจีน
สูตรการหมัก ตามแต่ชอบคะ
1. การที่จะหมักเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ให้เปื่อยนั้นในสมัยโบราณมักจะใช้ ยางมะละกอ ไปหมักกับเนื้อทิ้งไว้ ประมาณ 10-20 นาที ล้างยางมะละกอออกคะ แล้วนำเนื้อมาปรุงอาหาร
2. อีกวิธีก็คือนำน้ำสับปะรดมาหมัก ใช้เวลาในการหมักประมาณ 10-20 นาที สังเกตเนื้อจะนิ่ม
3.ใช้ผงโซดาไบคาร์บอเนต นำมาใส่ลงไปในเนื้อที่จะหมัก ก็จะได้เนื้อเปื่อย นุ่มเหมือนกัน
4. อีกวิธีก็คือการหมักด้วยซีอิ๊ว กับ น้ำมันพืช พริกไทยป่น (หรือพริกไทยเม็ดทุบพอแตก) และ เหล้าจีนอีกนิดหน่อยคะ ประมาณ 2 ชั่วโมงเนื้อก็จะทั้งนุ่มทั้งเปื่อยดี
5. หมักด้วย ซีอิ้วขาว แป้งมัน ไข่ขาว น้ำตาลปี๊บ จะเป็นเนื้อนุ่ม และเนื้อนิ่มมากคะ
**************************><